วันอาทิตย์ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

บทที่ 2 การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต

                                      
 การปรับแต่งคอมพิวเตอร์สำหรับการใช้งานอินเตอร์เน็ต               


   ระบบปฎิบัติการ (Operating System หรือ OS) ที่ดีที่สุดสำหรับงานบันทึกเสียงดนตรี หลายคนยืนยันว่า Mac ดีที่สุด และหลายคนก็ยืนยันว่าจะไม่ยอมย้ายจาก Microsoft Windows ไปใช้ Mac และมีบางคนแนะว่าให้มองดูฝั่ง Linux บ้าง ต่างก็โต้แย้งกันอย่างสรุปไม่จบซะที
ถ้า Windows ไม่ใช่ทางเลือกที่ดีที่สุด, แต่ความจริงก็คือ เครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณขณะนี้ใช้ Windows อยู่ และรวมทั้งที่กำลังจะซื้อใหม่ด้วย เราจะทำอย่างไรให้ Windows สามารถทำงานบันทึกเสียงดนตรีได้อย่างมีประสิทธิภาพ ? มาดูกันว่าจะปรับแต่งอย่างไร
1. อย่าใช้เครื่องทำงานอย่างอื่นไปด้วย
ใช้เครื่องนี้สำหรับงานบันทึกเสียงดนตรีเท่านั้น และติดตั้งเฉพาะโปรแกรมที่จำเป็นต่อการบันทึกเสียงเท่านั้น และอย่าให้คนอื่นมาใช้เครื่องนี้ เพื่อการดูหนัง ฟังเพลง หรือเล่นอินเตอร์เน็ต ทั้งนี้เพื่อประหยัดทรัพยากรทั้งหน่วยความจำ,พื้นที่บนฮาร์ดดิสก์ และประสิทธิภาพในการประมวลผลของ CPU
2. พยายามอย่า ติดตั้งและถอนโปรแกรมบ่อยๆ
บางท่านอาจชอบที่จะลอง software ใหม่ๆ เพราะโปรแกรมบางตัวอาจขัดแย้งกับโปรแกรมที่มีอยู่แล้วในเครื่อง และยังทำให้ Registry รกอีกด้วย และการถอนโปรแกรมออกจากเครื่องนั้นหากไม่รอบครอบท่านอาจถอน Library หรือไฟล์บางตัวที่ใช้ร่วมกันกับโปรแกรมอื่นอยู่
3. หลีกเลี่ยงที่จะใช้คอมพิวเตอร์สำหรับผลิตงานดนตรีต่ออินเตอเน็ต
เพื่อความปลอดภัยจาก Virus , Spy ware และภัยจากอินเตอร์เน็ตทั้งปวง ควรใช้เครื่องอื่นในการใช้งานอินเตอร์เน็ต
4.อย่ารันโปรแกรม Ativirus หรือ Antispyware
ในเมื่อเราเก็บคอมเครื่องนี้ไว้ให้พ้นจากสังคม ไม่ต่อเน็ต ไม่ copy file ไปๆมาๆกับเครื่องอื่น ดังนั้น อย่ารันโปรแกรม Ativirus หรือ Antispyware ในเวลาที่ทำงานบันทึกเสียง stop โปรแกรม Ativirus หรือ Antispyware ให้หมด แม้แต่ service ที่รันอยู่ซึ่งเรามองไม่เห็น ที่กำลัง scan หา virus ในเครื่อง เพราะโปรแกรมเหล่านี้กินทรัพยากรมาก ไม่ว่าจะเป็นหน่วยความจำ (RAM) ฮาร์ดดิสก์ทำงานหนักขึ้น และ CPU ประมวลผลมากขึ้น ซึ่งจะเป็นการเพิ่มงานให้เครื่อง
5. Scan virus สื่อบันทึกทุกอย่างที่จะนำมาใช้ด้วยเครื่องคอมเครื่องอื่นแทน
CD, DVD, ฮาร์ดดิสก์แบบพกพา ,USB sticks ต้อง Scan virus ก่อนนำมาใช้งานด้วยเครื่องคอมเครื่องอื่นแทน เพื่อความปลอดภัยจาก Virus , Spy ware
6. ใช้ Windows XP
                    ในขณะที่เขียนบทความนี้ Windows XP ถือว่าเป็นรุ่นที่ดีที่สุด กินทรัพยากรน้อยกว่า Windows Vista และ Windows 7 แต่ถ้าหาก RAM เยอะก็สามารถใช้ Windows 7 ได้ครับ ไม่แนะนำ Windows Vista ซึ่งไม่สเถียรเอาซะเลยครับ
7. ติดตั้งหน่วยความจำหลัก (RAM) เยอะๆ
โปรแกรมบันทึกเสียงหรือโปรแกรมทำงานแก้ไขเสียงดิจิตอล (DAW) ทุกวันกินทรัพยากรกันมากเหลือเกิน ยิ่งออกเวอร์ชั่นใหม่ๆออกมากก็ยิ่งกินทรัพยากรมากขึ้น ไม่รู้ทำไม 555 , เพื่อประสิทธิภาพในการทำงานควรติดตั้งหน่วยความจำหลัก (RAM) เยอะๆ เพื่อให้เพียงพอต่อการใช้งาน และยิ่ง RAM สมัยนี้ถูกมาก ราคาไม่ถึง 2 พัน ด้วยซ้ำ (2 GB) อย่างนี้ไม่ควรต่ำกว่า 2 GB แต่ถ้าหากใช้ VSTi หรือ Sample เยอะๆ แนะนำ 4 GB ขึ้นไปครับ และ BUS ของ RAM ยิ่งสูงยิ่งดีครับ เพราะ BUS ก็เปรียบเหมือนช่องทางการเดินรถยิ่งกว้าง ก็ยิ่งรองรับรถได้มากและเคลื่อนตัวได้เร็ว ลองนึกถึงข้อมูลที่กำลังบันทึกอยู่สิครับ
8. Defragment ฮาร์ดดิสก์เป็นประจำ
เนื่องจากฮาร์ดดิสก์มีการบันทึกและอ่านข้อมูลแบบสุ่ม นับวันข้อมูลก็จะกระจัดกระจายไปทั่ว ซึ่งทำให้เสียเวลาในการอ่านและเขียนข้อมูล ดังนั้นควร Defrag ฮาร์ดดิสก์เป็นประจำ ซึ่งมีเครื่องมือที่แถมมากับ Windows อยู่แล้วครับ (Disk Defragment)
9. บันทึกไฟล์เสียงหรือเก็บงานบันทึกเสียงไว้ในฮาร์ดดิสก์ลูกที่สอง
เนื่องจาก OS ทำงานอยู่บนไดร์ฟ C เป็นหลักซึ่งก็อาจเป็นฮาร์ดดิสก์ลูกแรกและพาร์ทติชั่นแรก โอกาสที่ Windows จะล่ม ก็มีอยู่ ซึ่งถ้าหากท่าน บันทึกไฟล์เสียงหรือเก็บงานบันทึกเสียงไว้ในฮาร์ดดิสก์ลูกที่สอง ก็ไม่ต้องกลัวงานท่านจะสูญหาย
10. เลือกใช้การ์ดแสดงผลที่ดี
การ์ดแสดงผลออนบอร์ดส่วนใหญ่จะไปแบ่งหน่วยความจำจากตัวเครื่องมากใช้งานซึ่งไม่ดีแน่ที่ต้องถูกแบ่งไปใช้ในการแสดงผลอย่างต่ำก็ 128 Mb ท่านควรซื้อการ์ดแสดงผลแยกต่างหากจากเมนบอร์ดเพราะการ์ดเหล่านี้จะมีหน่วยความจำมาในตัวและมีชิปประมวลผลมาในตัวไม่ไปแย่งงาน CPU มากนัก
11. เลือกใช้ฮาร์ดดิสก์ที่มีความเร็วสูง
ฮาร์ดดิสก์มีหลากหลายแบบมีทั้งความเร็วในการหมุนจากบันทึก 5400 rpm , 7200 rpm , 10000 rpm และ 15000 rpm ควรเลือกใช้ฮาร์ดดิสก์ที่มีความเร็วสูง ถ้าฮาร์ดดิสก์สำหรับเครื่อง PC ส่วนใหญ่ก็จะเป็น 7200 rpm ส่วน 15000 rpm จะเป็นฮาร์ดดิสก์ที่ใช้กับเครื่องเซิร์ฟเวอร์ ซึ่งก็สามารถใช้งานได้ดีมากขึ้นแต่ก็หมายถึงงบประมาณที่สูงขึ้นด้วย
12. ปรับปรุง Latency ให้ดี
ในการปรับปรุง Latency ให้ดีนั้นมีหลายปัจจัย แต่ปัจจัยหลักๆคือ Audio interface ที่ท่านใช้อยู่ ควรเลือกใช้ Audio interface หรือ Sound card ที่มีค่า Latency น้อยๆ เพื่อที่เสียงที่ได้ยินจะไม่ได้ดีเลย์ไปจากความเป็นจริงมากจนฟังออก และควรเลือกใช้ไดร์ฟเวอร์ที่เป็น ASIO หากไม่มีให้ติดตั้ง Asio4All ลงไปครับ

                                         การติดตั้งโปรแกรมเชื่อมต่อแบบ Dial-up Connection
                   การติดตั้งโปรแกรมเชื่อมต่อแบบ Dial-up Connection
สำหรับ Windows XP
1. กดปุ่ม Start เลือก Control Panel จากนั้นดับเบิ้ลคลิก Network and Internet Connection
2. ดับเบิ้ลคลิก Network Connections
3.ดับเบิ้ลคลิก Create a new connection จากรายการทางด้านซ้าย
สำหรับ Windows XP แบบ Classic : 
  1.
กดปุ่ม Start จากนั้นเลือก Control Panel 
  2.
ดับเบิ้ลคลิก Network Connections
 3.ดับเบิ้ลคลิก Create a new connection จากรายการด้านซ้าย 
 4.
จะแสดงหน้าต่าง Welcome to the Network Connection Wizard กดปุ่ม Next
 5 . เลือกรายการ Connect to The Internet จากนั้นกดปุ่ม Next
 6. เลือกหัวข้อ Set Up My Connection Manually จากนั้นกดปุ่ม Next
 7.เลือกหัวข้อ Connect Using A Dial-Up Modem จากนั้นกดปุ่ม Next
 8. พิมพ์ชื่อที่ต้องการตั้งสำหรับการเชื่อมต่อ เช่น Rally จากนั้นกดปุ่ม Next
 9. ในช่อง Phone Number to Dial พิมพ์ หมายเลขโทรศัพท์  074316477 จากนั้นกดปุ่ม Next
 10. สำหรับ On Internet Account Information 
     
พิมพ์รหัสผ่าน ในช่อง User คือ  moi
     
พิมพ์รหัสผ่าน ในช่อง password  คือ moinet และ Confirm password 
     
นำเครื่องหมายถูกหน้าหัวข้อ Use the account name and password when anyone connects to the Internet from this computer                  
     
ออกนำเครื่องหมายถูกหน้าหัวข้อ Make this the default Internet Connection ออก 
     
นำเครื่องหมายถูกหน้าหัวข้อ Turn on Internet Connection Firewall for this connection จากนั้นกดปุ่ม Next
11 เสร็จสิ้นการสร้าง Internet Connection กดปุ่ม Finish จากนั้นจะพบไอคอนสำหรับเชื่อมต่อ
12 สำหรับการติดตั้งค่าเพิ่มเติม คลิกขวาที่ Connection Icon กดปุ่ม Properties 
จะเห็นข้อมูลที่ได้ติดตั้งค่าไว้ในเบื้องต้น แสดงรายการโมเด็มที่ใช้งาน (หากมีโมเด็มมากกว่าหนึ่งเครื่อง จะแสดง รายการทั้งหมด) กดปุ่ม Configure
13 ตั้งค่า Maximum speed (bps) เป็น 57600 จากนั้นกดปุ่ม OK
14  เลือกหน้าต่าง Networking ในหัวข้อแรกตั้งค่า PPP: Windows 95/98/NT4/2000, Internet สำหรับส่วนที่สองสำหรับเลือก protocol 
สำหรับใช้งาน เลือกหัวข้อ   Internet Protocol (TCP/IP) กดปุ่ม OK จะกลับสู่ไอคอนสำหรับเชื่อมต่อ
        องค์ประกอบของการใช้อินเตอร์เน็ตรายบุคคล 
              1. 
โทรศัพท์ 
              2. 
เครื่องคอมพิวเตอร์ 
              3. 
ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต ซึ่งจะให้เบอร์โทรศัพท์ รหัสผู้ใช้และรหัสผ่าน 
              4. 
โมเด็ม (Modem)                                                               
  2. การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตแบบองค์กร (Corporate Connection) การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแบบองค์กรนี้จะพบได้ทั่วไปตามหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน หน่วยงานต่างๆ เหล่านี้จะมีเครือข่ายท้องถิ่น (Local Area Network : LAN) เป็นของตัวเอง ซึ่งเครือข่าย LAN นี้เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตตลอดเวลา ผ่านสายเช่า (Leased line) ดังนั้น บุคลากรในหน่วยงานจึงสามารถใช้อินเตอร์เน็ตได้ตลอดเวลา การใช้อินเตอร์เน็ตผ่านระบบ LAN ไม่มีการสร้างการเชื่อมต่อ(Connection)เหมือนผู้ใช้รายบุคคลที่ยังต้องอาศัยคู่สายโทรศัพท์ในการเข้าสู่เครือข่ายอินเตอร์เน็ต

                                                    
                                                                 การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต 
การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแบบใช้สาย (Wire Internet) 

         1. 
การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตรายบุคคล (Individual Connection) การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตรายบุคคล คือ การเชื่อมต่อ
อินเตอร์เน็ตจากที่บ้าน (Home user) ซึ่งยังต้องอาศัยคู่สายโทรศัพท์ในการเข้าสู่เครือข่ายอินเตอร์เน็ต ผู้ใช้ต้องสมัครเป็นสมาชิกกับ
ผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตก่อน จากนั้นจะได้เบอร์โทรศัพท์ของผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต รหัสผู้ใช้ (User name) และรหัสผ่าน
(Password)
ผู้ใช้จะเข้าสู่ระบบอินเตอร์เน็ตได้โดยใช้โมเด็มที่เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้หมุนไปยังหมายเลขโทรศัพท์ของผู้ให้
บริการอินเตอร์เน็ต จากนั้นจึงสามารถใช้ งานอินเตอร์เน็ตได้

                                            การยกเลิกการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
ถ้าคุณใช้การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านสายโทรศัพท์ คุณต้องยกเลิกการเชื่อมต่อทุกครั้งที่เสร็จสิ้นการใช้อินเทอร์เน็ต ถ้าคุณใช้การเชื่อมต่อแบบบรอดแบนด์ คุณจะเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตอยู่เสมอ ไม่ว่าจะใช้เว็บหรือไม่ก็ตาม ดังนั้นเมื่อคุณปิดเว็บเบราว์เซอร์ คอมพิวเตอร์ของคุณจะยังคงเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตอยู่

การยกเลิกการเชื่อมต่อจากการเชื่อมต่อผ่านสายโทรศัพท์

·         คลิกไอคอน การเชื่อมต่อ ในพื้นที่แจ้งให้ทราบ ให้คลิกชื่อการเชื่อมต่อ แล้วคลิก ยกเลิกการเชื่อมต่อ

การปิดใช้งานการเชื่อมต่อแบบบรอดแบนด์

แม้ว่าการเชื่อมต่อแบบบรอดแบนด์จะเปิดอยู่เสมอ แต่ในบางครั้งคุณอาจจำเป็นต้องปิดใช้งานเพื่อการแก้ไขปัญหา
3. เปิด 'การเชื่อมต่อเครือข่าย' ด้วยการคลิกปุ่ม เริ่ม แล้วคลิก แผงควบคุม ในกล่องค้นหา ให้พิมพ์ อะแดปเตอร์ จากนั้นภายใต้ 'ศูนย์เครือข่ายและการใช้ร่วมกัน' ให้คลิก ดูการเชื่อมต่อเครือข่าย
4. คลิกขวาที่การเชื่อมต่อแบบบรอดแบนด์ แล้วคลิก ปิดใช้งาน ถ้าคุณได้รับพร้อมท์ให้ใส่รหัสผ่านของผู้ดูแลหรือการยืนยัน ให้พิมพ์รหัสผ่านหรือทำการยืนยัน
วิธการเชื่อมต่อเข้าสู่อินเตอร์เน็ต

        การเชื่อมโยงโดยตรงด้วยเกตเวย์เป็นการเชื่อมโยงเครือข่ายคอมพิวเตอร์ เข้ากับ Backbone ของอินเตอร์เน็ต โดยผ่านเกตเวย์ (Gateway) หรือ IP Router   สายสื่อสารความเร็วสูงมาก มักใช้กับองค์กรขนาดใหญ่ เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายสูงมาก การเชื่อมโยงต่อ
ผ่านInternet Service Providers(ISP)เป็นการเชื่อมโยงคอมพิวเตอร์ เข้าสู่อินเตอร์เน็ตโดยผ่านบริษัทผู้ให้บริการจัดสรรการเชื่อมโยง
      

แบบทดสอบบทที่ 2
1. moinet และ Confirm password คืออะไร
ก.  พิมพ์รหัสผ่าน ในช่อง User คือ  moi           ข.การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตรายบุคคล
ค.  พิมพ์รหัสผ่าน ในช่อง password                  ง.การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตแบบองค์กร
2. องค์ประกอบของการใช้อินเตอร์เน็ตรายบุคคลมีกี่อย่างอะไรบ้าง
ก. 1                                                                     ข. 2                                                                                       
ค. 3                                                                     ง. 4
3. (Wire Internet) คืออะไร
ก. การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตแบบองค์กร         ข. การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแบบใช้สาย                               
ค.การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต                                ง.การเชื่อมต่อเครือข่าย
4. (Corporate Connection) คืออะไร
ก. การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตแบบองค์กร       ข. การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแบบใช้สาย                              
 ค.การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต                             ง.การเชื่อมต่อเครือข่าย
5. องค์ประกอบของการใช้อินเตอร์เน็ตรายบุคคลมีกี่อย่างอะไรบ้าง
ก.1                                                                        ข.2                                                                                                                               
ค. 3                                                                        ง. 4
6.โมเด็มสามารถรับส่งข้อมูลด้ไม่เกินความเร็วที่เท่าไร
ก. 50 Kbps                                                            ข. 56 Kbps
ข. 60 Kbps                                                             ง. 66 Kbps
7.โปรแกรมที่มีความสำคัญในการใช้งานอินเทอร์เน็ตมีกี่ประเภท
ก. 2 ประเภท                                                          ข. 3 ประเภท
ค. 4 ประเภท                                                          ง. 5 ประเภท
8.อุปกรณ์ที่ทำหน้าที่แปลงสัญญาณจากคอมพิวเตอร์ส่งไปทางสายโทรศัพท์ เรียกว่าอะไร
ก. โมเดล                                                                 ข. โมดูเลเตอร์
ค. โมเด็ม                                                                  ง. โมดูล
9.โมเด็มแบ่งออกเป็นกี่ประเภท
ก. 3 ประเภท                                                           ข. 4 ประเภท
ค. 5 ประเภท                                                           ง. 6  ประเภท
10.ข้อใดไม่ใช่ประเภทของโมเด็ม
ก. โมเด็มแบบภายนอก (Internal)                      ข. โมเด็มแบบภายนอก (External)
ค. โมเด็มแบบ PCMCIA                                      ง. ไม่มีข้อถูก

เฉลย
1.     2.     3.     4.     5.    6.     7.     8.     9.    10.

1 ความคิดเห็น: